ลักษณะทั่วไป
เยอรมัน สปิตซ์ เป็นสุนัขที่มีขนาดกลางจนถึงขนาดเล็ก มีรูปร่างและใบหน้าคล้ายกับสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน แต่มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า และเป็นสายพันธุ์ที่มีอายุแก่มากที่สุดเพราะจากค้นพบหลักฐานต่าง ๆ มีการค้นพบในยุคหินที่มีกระดูกโครงสร้างคล้ายสปิตซ์เป็นอย่างมาก และพบว่าสปิตซ์ได้มีถิ่นอาศัยอยู่ในยุโรปตอนกลางมานับพันปีแล้ว ตามประวัติได้รับความนิยมเลี้ยงเป็นสุนัขของพ่อค้าและชาวประมงเพื่อคอยเฝ้ายามและเห่าเตือนสิ่งผิดปกติ ก่อนที่ภายหลังได้ถูกมอบเป็นของขวัญให้กับสมเด็จพระราชินี Queen Charlotte ใน King George III แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ จึงทำให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย หลังสงครามโลก เยอรมัน สปิตซ์ ได้รับความนิยมลดลง แต่ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในปี 1970 ในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลีย รวมถึงบางส่วนก็ได้ถูกนำไปยังสหรัฐอเมริกาลักษณะนิสัย
มีนิสัยร่าเริง ฉลาด และขี้เล่น ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
เป็นสุนัขที่เลี้ยงในครอบครัวที่มีเด็กได้
เชื่อฟังเจ้าของแต่ก็รักความเป็นอิสระ
รวมถึงมีสัญชาติญาณในการเตือนภัยให้เจ้าของเมื่อมันรู้สึกว่ามีอันตราย
หรือมีคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาใกล้
มันจะทำตัวเป็นยามปกป้องบ้านอยู่เสมอ
และเป็นสุนัขที่ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องเสียงเห่า
เพราะมันจะเห่าเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติ แต่จะส่งเสียงครวญครางเบา ๆ
เมื่อรู้สึกเบื่อหน่าย และเป็นสุนัขที่รักความสะอาด
จะชอบเลียทำความสะอาดขนของตัวเองเสมอ
การดูแล
เยอรมัน สปิตซ์ เป็นสุนัขที่มีขนสองชั้น
ควรจะได้รับการแปรงหรือหวีอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องพาไปตัดขน
ตามปกติแล้วเจ้าสปิตซ์เป็นหมาที่รักสะอาดมาก
อาจจะไม่ต้องอาบน้ำบ่อยนักในหน้าผลัดขนที่จะผลัดปีละ 2 ครั้ง
ขนของสุนัขพันธุ์นี้จะร่วงค่อนข้างเยอะจึงต้องคอยดูแลเรื่องขนมากเป็นพิเศษ
ต้องระวังขนเป็นสังกะตัง
ส่วนเรื่องการแปรงฟันก็ควรใช้ยาสีฟันสำหรับสุนัขทำความสะอาดฟันเป็นประจำเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี
ตัดเล็บ และดูแลดวงตาให้สะอาดเสมอ
ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม
ผู้เลี้ยงต้องมีเวลา
ดูแลเรื่องขนของและมีเวลาพาพวกเขาออกกำลังกายอย่างเพียงพอ เพราะเยอรมัน
สปิตซ์ เป็นสุนัขที่พลังงานปานกลาง ในแต่ละวันควรให้โอกาสได้วิ่งเล่น
หรือทำกิจกรรม ฝึกทักษะ คำสั่งต่าง ๆ
เพื่อเพิ่มคุณค่าและความน่ารักให้เขาบ้าง
ข้อควรจำ
เยอรมัน สปิตซ์ ควรระวังโรคลมชัก (Epilepsy) โรคสะบ้าเคลื่อน (Patellar
luxation) โรคจอประสาทตาเสื่อม (progressive retinal atrophy)
ดังนั้นจึงควรพาไปตรวจร่างกายเป็นประจำ
มาตรฐานสายพันธุ์
ขนาด | เยอรมัน สปิตซ์ ขนาดเล็กจะมีส่วนสูงอยู่ระหว่าง 9-11 นิ้ว ขนาดกลางจะมีส่วนสูงอยู่ที่ 12-15 นิ้ว น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 7-18 กิโลกรัม |
ศรีษะ | มีขนาดปานกลาง ส่วนหักบนใบหน้าระหว่างตาทั้ง 2 ข้างชัดเจน |
ฟัน | แข็งแรง จัดเรียงสวยงาม ฟันบนล่างซ้อนกันพอเหมาะพอดี ตามแบบลักษณะฟันกรรไกร |
ปาก | สีดำ ริมฝีปากกระชับ |
ตา | รูปตาเป็นวงรี ทรงอัลมอนด์ ลูกตามีสีเข้ม |
หู | ใบหูใหญ่ ตั้งตรง เป็นทรงสามเหลี่ยม ส่วนบนสุดของใบหูโค้งมนเล็กน้อย |
จมูก | ดำสนิท |
คอ | แข็งแรง ตั้งตรง สง่างาม |
อก | อกลึก กระดูกซี่โครงขยายออกกว้าง ช่วยให้ขาหน้าและไหล่เคลื่อนไหวได้ดี |
ลำตัว | กระดูก และกล้ามเนื้อแข็งแรงมีประสิทธิภาพ รูปทรงมีลักษณะกลมสมดุล |
เอว | - |
ขาหน้า | ตั้งตรง และตั้งฉากกับพื้น แข็งแรง มีพลัง ช่วยให้การก้าวกระโดดมั่นคง ช่วงไหล่ทั้งสองข้างยาวและลาดต่ำลงสวยงาม |
ขาหลัง | กล้ามเนื้อขาหลังท่อนบนแข็งแรง กระดูกขาค่อนข้างใหญ่ ข้อเท้าทำมุมพอประมาณ มีขนหนาบนบริเวณด้านหลังขา |
หาง | ควรมีความยาวพอดี ปกคลุมด้วยขนยาวเป็นพวง |
ขน | มี ขน 2 ชั้น ชั้นแรกจะสั้น นุ่ม และหนา ติดกับชั้นขนที่ยาวกว่า และหยาบกว่าซึ่งอยู่ชั้นนอก ขนของเยอรมัน สปิตซ์ มีความเงางาม บริเวณรอบคอและไหล่ขนฟูหนาเป็นแผงคอช่วยให้ทนต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็น และมีขนที่ขาและหางที่ยาวสลวย |
สีขน | มีหลายสี ได้แก่ สีดำ, สีครีม, สีขาว, สีน้ำตาล, สีแดง, สีส้มและสีเทา บางตัวมีมาร์คกิ้งสีดำ |
ภาพประกอบ:
http://www.vetstreet.com/dogs/german-spitz#overview
https://www.selectadogbreed.com/dog-breeds/german-spitz-mittel-klein/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น