ภายหลังจากเกิดเหตุ "ขว้างเกียว" น้องสุนัขสายพันธ์อเมริกันพิทบูล เทอร์เรีย กัดผู้ครอบครองภายหลังจากผู้ครอบครองลูบคลำหัวในเวลาที่เจ้าขว้างเกียวกำลังทานอาหาร ทำให้ในขณะนี้น้องสุนัขสายพันธุ์พิทบูลกลายเป็นหัวข้อที่ถูกกล่าวถึงอีกที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหัวข้อเกี่ยวกับ "ความโหดเหี้ยม" ด้วยเหตุว่าพอใช้ยินชื่อ "พิทบูล" พวกเขาก็จะถูกวินิจฉัยว่าเป็นน้องสุนัขอันตราย มีความนิสัยไม่ดีดุร้าย ยากที่จะควบคุม ... แม้กระนั้นโน่นเป็นความรู้ความเข้าใจในมุมของคนทั่วๆไป
แม้กระนั้นถ้าหากว่ามองดูเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ในมุมของจิตวิทยาหมา ประเด็นสำคัญที่ส่งผลให้เกิดเรื่องราวนี้ขึ้นก็คือ การที่ผู้ครอบครองคลำหัวน้องหมาในขณะทานข้าว นั่นเอง ... ฟังแล้วอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นว่าการคลำหัวน้องสุนัขตอนทานข้าวเป็นสิ่งไม่ถูก หรือทำให้โดนน้องหมากัดเลยหรือ ... วันนี้พวกเราจะพาทุกคนไปพบคำตอบกันจ้ะ
"คลำหัวน้องสุนัขตอนน้องหมากินข้าวมิได้หรอ?"
ตอนแรกจะต้องทำความเข้าใจกับสัญชาตญาตตามธรรมชาติของน้องหมาก่อนนะคะว่า น้องสุนัขทั่วๆไปไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นน้องสุนัขสายพันธุ์ดุ หรือพลังงานสูง ก็สามารถมีการกระทำหวงของกินได้ โดยการกระทำที่แสดงออกถึงการหวงของกินของน้องหมาก็เป็น เมื่อน้องหมากำลังทานอาหารอยู่แล้วมีคนหรือน้องสุนัขตัวอื่นเดินมาใกล้ๆ(ยังไม่ต้องถึงกับขนาดสัมผัสตัว) เขาก็จะข่มขู่หรือเห่า บางทีอาจก้มหัวแข็ง มองตาขวาง คุ้มครองปกป้องของกินตนเองสุดชีวิต ด้วยเหตุว่ามีความรู้สึกว่าคนหรือน้องสุนัขที่เข้ามาใกล้นั้นจะมาแย่งของกินของเขา ด้วยเหตุผลดังกล่าวก็เลยไม่ต้องประหลาดใจเลยจ้ะว่าเพราะเหตุใดการคลำหัวน้องสุนัขตอนน้องหมากินข้าวถึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องหมากัดผู้ครอบครองได้ และไม่จำเป็นจะต้องว่าควรจะเป็นน้องสุนัขสายพันธุ์ดุเพียงแค่นั้นที่จะมีการกระทำอย่างงี้ น้องสุนัขสายพันธุ์ทั่วๆไปก็สามารถมีความประพฤติปฏิบัติหวงของกินได้ด้วยเหมือนกันจ้ะ
"คลำหัวน้องสุนัขตอนน้องหมากินข้าวมิได้หรอ?"
ตอนแรกจะต้องทำความเข้าใจกับสัญชาตญาตตามธรรมชาติของน้องหมาก่อนนะคะว่า น้องสุนัขทั่วๆไปไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเป็นน้องสุนัขสายพันธุ์ดุ หรือพลังงานสูง ก็สามารถมีการกระทำหวงของกินได้ โดยการกระทำที่แสดงออกถึงการหวงของกินของน้องหมาก็เป็น เมื่อน้องหมากำลังทานอาหารอยู่แล้วมีคนหรือน้องสุนัขตัวอื่นเดินมาใกล้ๆ(ยังไม่ต้องถึงกับขนาดสัมผัสตัว) เขาก็จะข่มขู่หรือเห่า บางทีอาจก้มหัวแข็ง มองตาขวาง คุ้มครองปกป้องของกินตนเองสุดชีวิต ด้วยเหตุว่ามีความรู้สึกว่าคนหรือน้องสุนัขที่เข้ามาใกล้นั้นจะมาแย่งของกินของเขา ด้วยเหตุผลดังกล่าวก็เลยไม่ต้องประหลาดใจเลยจ้ะว่าเพราะเหตุใดการคลำหัวน้องสุนัขตอนน้องหมากินข้าวถึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องหมากัดผู้ครอบครองได้ และไม่จำเป็นจะต้องว่าควรจะเป็นน้องสุนัขสายพันธุ์ดุเพียงแค่นั้นที่จะมีการกระทำอย่างงี้ น้องสุนัขสายพันธุ์ทั่วๆไปก็สามารถมีความประพฤติปฏิบัติหวงของกินได้ด้วยเหมือนกันจ้ะ
ความประพฤติปฏิบัติหวงของกินของน้องสุนัข สะท้อนอะไรถึงตัวผู้ครอบครองบ้าง?
สำหรับเลี้ยงน้องสุนัขอาจจะเคยชินกับคำว่า "หัวหน้าฝูง" โดยในโลกน้องสุนัขหัวหน้าฝูงเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุด มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ ข้าวของต่างๆรวมถึงของกินเป็นของผู้นำฝูง ผู้นำฝูงจะใช้หรือจะรับประทานเมื่อใดก็ได้ โดยที่ลูกฝูงจำต้องยอมเสมอ โดยเหตุนั้น การที่น้องสุนัขมีความประพฤติปฏิบัติหวงของหรือหวงของกิน ก็เลยชี้ให้เห็นว่าน้องสุนัขมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นหัวหน้าฝูง มีอำนาจเหนือทุกคน สิ่งนี้สะท้อนไปถึงตัวของผู้เลี้ยงว่าไม่มีอำนาจความเป็นหัวหน้าฝูง หรือเปล่าได้แสดงอำนาจความเป็นผู้นำฝูงอย่างแจ่มแจ้ง ทำให้น้องสุนัขไม่หวาดหวั่น ไม่เชื่อฟัง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง นั่นเอง และก็การยินยอมให้น้องสุนัขแสดงอำนาจอยู่เหนือกว่าผู้ครอบครองนั้น ก็จะเป็นจุดเริ่มแรกของปัญหาต่างๆล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องสุนัขที่มีพลังงานสูงและก็มีความดุหรือหยาบ รวมทั้งนอกเหนือจากความประพฤติปฏิบัติหวงของกินของน้องสุนัขจะเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการที่ผู้เลี้ยงไม่มีอำนาจความเป็นหัวหน้าฝูงแล้ว การเลี้ยงน้องสุนัขแบบตามใจ (สปอยล์ เอาใจ) มากจนเกินไปก็อาจจะก่อให้กำเนิดความประพฤตินี้ได้เหมือนกัน
รักน้องสุนัขแบบลูก ก็มีสิทธิ์ทำให้ "เสียสุนัข" ได้ (ถ้าเกิดเลี้ยงไม่ถูกแนวทาง)
มั่นใจว่าสำหรับคู่รักน้องสุนัข การเลี้ยงน้องสุนัขและก็ให้ความรักเสมือนน้องสุนัขเป็นลูกนั้นคือเรื่องธรรดา ผู้เลี้ยงบางบุคคลเลี้ยงน้องสุนัขเสมือนเป็นเด็กตัวเล็กๆๆให้นอนบนเตียงร่วมกัน แบ่งของกินที่ตนเองรับประทานให้น้องหมากินด้วย ยินยอมให้น้องสุนัขเล่นแรงๆด้วยเพราะว่ามีความคิดว่าพวกเขาไม่รู้เดียงสาไม่รู้เรื่องอะไร และยังรวมไปถึงทำไม่ดี แสดงกริยากระด้าง ก็จะไม่ลงทัณฑ์เนื่องจากว่ากลัวว่าน้องสุนัขจะงอน โกรธ น้อยอกน้อยใจ ... แม้กระนั้นการแสดงความรักด้วยการตามจิตใจยอมน้องสุนัขทำทุกสิ่งทุกอย่างนั้น เป็นกรรมวิธีการมอบความรักที่ไม่ถูกแล้วก็ทำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่อตัวน้องสุนัขเอง ด้วยเหตุว่าเมื่อน้องสุนัขมีความคิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ พวกเขาก็บางทีอาจแสดงกริยาหยาบเมื่อถูกขัดใจไหมได้ในสิ่งที่จำเป็น ซึ่งในระยะยาวก็จะมีผลให้น้องสุนัขมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นหัวหน้าฝูง อยู่เหนือทุกคน ต่อไปนี้ไม่ว่าผู้เลี้ยงจะสอน หรือสั่งให้ทำอะไร น้องหมาก็จะไม่เชื่อฟัง และก็บางทีอาจแสดงความนิสัยไม่ดีได้ ซึ่งท้ายที่สุดน้องหมาก็จะยึดอำนาจความเป็นหัวหน้าฝูงของผู้เลี้ยงไปอย่าวถาวรจ้ะ รวมทั้งเมื่อน้องสุนัขมีปัญหาความประพฤติ แสดงความนิสัยเสียหรือรังควานผู้ครอบครอง ในที่สุดแล้วน้องสุนัขจากที่เคยเป็นลูกรักก็จะเปลี่ยนเป็นต้นตอของปัญหาของบ้านไปโดยปริยาย
เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ให้ความรักที่มีให้กับน้องสุนัขเป็นการรังแก ผู้เลี้ยงอย่างพวกเราก็เลยความจะทำความเข้าใจกับการกระทำของน้องสุนัข แล้วก็ฝึกฝนพวกเขาให้รู้จักหัวหน้าฝูง รู้จักระเบียบของบ้าน รวมทั้งทำตามคำบัญชาของผู้ครอบครองอย่างสม่ำเสมอด้วยจ้ะ
สำหรับเลี้ยงน้องสุนัขอาจจะเคยชินกับคำว่า "หัวหน้าฝูง" โดยในโลกน้องสุนัขหัวหน้าฝูงเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุด มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ ข้าวของต่างๆรวมถึงของกินเป็นของผู้นำฝูง ผู้นำฝูงจะใช้หรือจะรับประทานเมื่อใดก็ได้ โดยที่ลูกฝูงจำต้องยอมเสมอ โดยเหตุนั้น การที่น้องสุนัขมีความประพฤติปฏิบัติหวงของหรือหวงของกิน ก็เลยชี้ให้เห็นว่าน้องสุนัขมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นหัวหน้าฝูง มีอำนาจเหนือทุกคน สิ่งนี้สะท้อนไปถึงตัวของผู้เลี้ยงว่าไม่มีอำนาจความเป็นหัวหน้าฝูง หรือเปล่าได้แสดงอำนาจความเป็นผู้นำฝูงอย่างแจ่มแจ้ง ทำให้น้องสุนัขไม่หวาดหวั่น ไม่เชื่อฟัง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง นั่นเอง และก็การยินยอมให้น้องสุนัขแสดงอำนาจอยู่เหนือกว่าผู้ครอบครองนั้น ก็จะเป็นจุดเริ่มแรกของปัญหาต่างๆล้นหลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องสุนัขที่มีพลังงานสูงและก็มีความดุหรือหยาบ รวมทั้งนอกเหนือจากความประพฤติปฏิบัติหวงของกินของน้องสุนัขจะเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการที่ผู้เลี้ยงไม่มีอำนาจความเป็นหัวหน้าฝูงแล้ว การเลี้ยงน้องสุนัขแบบตามใจ (สปอยล์ เอาใจ) มากจนเกินไปก็อาจจะก่อให้กำเนิดความประพฤตินี้ได้เหมือนกัน
รักน้องสุนัขแบบลูก ก็มีสิทธิ์ทำให้ "เสียสุนัข" ได้ (ถ้าเกิดเลี้ยงไม่ถูกแนวทาง)
มั่นใจว่าสำหรับคู่รักน้องสุนัข การเลี้ยงน้องสุนัขและก็ให้ความรักเสมือนน้องสุนัขเป็นลูกนั้นคือเรื่องธรรดา ผู้เลี้ยงบางบุคคลเลี้ยงน้องสุนัขเสมือนเป็นเด็กตัวเล็กๆๆให้นอนบนเตียงร่วมกัน แบ่งของกินที่ตนเองรับประทานให้น้องหมากินด้วย ยินยอมให้น้องสุนัขเล่นแรงๆด้วยเพราะว่ามีความคิดว่าพวกเขาไม่รู้เดียงสาไม่รู้เรื่องอะไร และยังรวมไปถึงทำไม่ดี แสดงกริยากระด้าง ก็จะไม่ลงทัณฑ์เนื่องจากว่ากลัวว่าน้องสุนัขจะงอน โกรธ น้อยอกน้อยใจ ... แม้กระนั้นการแสดงความรักด้วยการตามจิตใจยอมน้องสุนัขทำทุกสิ่งทุกอย่างนั้น เป็นกรรมวิธีการมอบความรักที่ไม่ถูกแล้วก็ทำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่อตัวน้องสุนัขเอง ด้วยเหตุว่าเมื่อน้องสุนัขมีความคิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ พวกเขาก็บางทีอาจแสดงกริยาหยาบเมื่อถูกขัดใจไหมได้ในสิ่งที่จำเป็น ซึ่งในระยะยาวก็จะมีผลให้น้องสุนัขมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นหัวหน้าฝูง อยู่เหนือทุกคน ต่อไปนี้ไม่ว่าผู้เลี้ยงจะสอน หรือสั่งให้ทำอะไร น้องหมาก็จะไม่เชื่อฟัง และก็บางทีอาจแสดงความนิสัยไม่ดีได้ ซึ่งท้ายที่สุดน้องหมาก็จะยึดอำนาจความเป็นหัวหน้าฝูงของผู้เลี้ยงไปอย่าวถาวรจ้ะ รวมทั้งเมื่อน้องสุนัขมีปัญหาความประพฤติ แสดงความนิสัยเสียหรือรังควานผู้ครอบครอง ในที่สุดแล้วน้องสุนัขจากที่เคยเป็นลูกรักก็จะเปลี่ยนเป็นต้นตอของปัญหาของบ้านไปโดยปริยาย
เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ให้ความรักที่มีให้กับน้องสุนัขเป็นการรังแก ผู้เลี้ยงอย่างพวกเราก็เลยความจะทำความเข้าใจกับการกระทำของน้องสุนัข แล้วก็ฝึกฝนพวกเขาให้รู้จักหัวหน้าฝูง รู้จักระเบียบของบ้าน รวมทั้งทำตามคำบัญชาของผู้ครอบครองอย่างสม่ำเสมอด้วยจ้ะ
จิตวิทยาสำหรับในการให้อาหารน้องสุนัข ที่จะช่วยฝึกหัดให้ผู้เลี้ยงเป็นผู้นำฝูง
สิ่งที่ผู้เลี้ยงทุกคนจำต้องทราบเป็น คุณต้องแสดงให้น้องสุนัขทราบว่า ของกินที่เขาต้องการรับประทานนั้นเป็นของผู้เลี้ยง เขาจะได้รับประทานก็เมื่อผู้เลี้ยงอนุญาตแค่นั้น ... โดยวิธีฝึกก็คือ
1. เริ่มจากเมื่อถึงเวลาให้อาหารให้พวกเราใส่โซ่คอรวมทั้งสายลากน้องสุนัขให้เป็นระเบียบ แล้วหลังจากนั้นสั่งให้เขานั่งรอนิ่งๆ
2. เมื่อเขานั่งนิ่งแล้วให้วางจานชามไม่ไว้ที่ข้างหน้าของน้องสุนัข โดยที่น้องสุนัขต้องนั่งรออยู่ดังเดิม ถ้าหากว่าน้องสุนัขไม่เอาอย่าง ก็ให้นำหมากลับไปที่เดิมแล้วกระทำการปรับปรุงโดยสั่งการ นั่ง รอ อีกรอบ
3. ถ้าหากว่าน้องสุนัขนั่งอยู่ในอาการสงบแล้ว ให้พวกเราจับของกินสักบางส่วนวางไปในจานชามของกินของน้องสุนัข จะต้องรอมองให้น้องสุนัขอยู่ในท่านั่งรอดังเดิมด้วยนะคะ
4. และก็ถ้าเชื่อฟังและก็ปฏิบัตตามคำสั่งของพวกเรา ก็ให้พวกเราให้รางวัลเขาด้วยการชูจานชามของกินขึ้นแล้วยื่นให้น้องหมากิน พร้อมทั้งดูทำใหม่ไปเรื่อยตราบจนกระทั่งของกินหมด น้องสุนัขจะเริ่มรู้เรื่องว่าพวกเราเป็นผู้บริจาคของกินมิได้มาแย่งของกิน
5. แม้กระนั้นในทางตรงกันข้ามหากน้องสุนัข มีความประพฤติข่มขู่หรือแยกเขี้ยว ให้พวกเราหยุดให้อาหารและก็ออกสำสั่ง "ไม่" แล้วก็ "นั่ง" ดังๆเพื่อเขารู้สึกตัวว่าแม้ทำการกระทำอย่างงี้จะอดทานอาหาร
การฝึกฝนด้วยวิธีแบบนี้จะเห็นผลมากมายถ้าหากฝึกหัดตั้งแต่น้องหมายังเด็กๆแล้วก็ทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีข้อละเว้น การใช้จิตวิทยาในรูปแบบนี้จะมีผลให้น้องสุนัขดูดซึมความเป็นผู้นำฝูงของผู้เลี้ยงได้ง่ายโดยที่ผู้เลี้ยงไม่ต้องใช้กระบวนการฝึกหัดที่เอาจริงเอาจังหรือเคร่งเคลียดเกินความจำเป็นจ้ะ
สำหรับกรณีของเจ้าขว้างเกียวนั้น ข่าวสารอัพเดทปัจจุบันเป็น ทางผู้ครอบครองได้นำไปรักษารวมทั้งฝากไว้กับทางโรงหมอ ซึ่งภายหลังจากเจ้าขว้างเกียวหายก็ดีทางผู้ครอบครองจะประกาศหาบ้านใหม่ให้ขว้างเกียวเนื่องมาจากไม่พร้อมดูแลต่อ แม้กระนั้นจะรับผิดชอบรายจ่ายสำหรับการคุมกำเนิดและก็ค่าฝากเลี้ยง และก็จะเดินทางไปยอดเยี่ยมเป็นประจำ... อย่างไรก็ขอให้เรื่องราวของขว้างเกียวจบสิ้นลงด้วยดี แล้วก็ขอให้เจ้าขว้างเกียวโชคดีได้พบกับครอบครัวใหม่ที่รู้เรื่องรวมทั้งเปิดใจเห็นด้วยนะคะ
สิ่งที่ผู้เลี้ยงทุกคนจำต้องทราบเป็น คุณต้องแสดงให้น้องสุนัขทราบว่า ของกินที่เขาต้องการรับประทานนั้นเป็นของผู้เลี้ยง เขาจะได้รับประทานก็เมื่อผู้เลี้ยงอนุญาตแค่นั้น ... โดยวิธีฝึกก็คือ
1. เริ่มจากเมื่อถึงเวลาให้อาหารให้พวกเราใส่โซ่คอรวมทั้งสายลากน้องสุนัขให้เป็นระเบียบ แล้วหลังจากนั้นสั่งให้เขานั่งรอนิ่งๆ
2. เมื่อเขานั่งนิ่งแล้วให้วางจานชามไม่ไว้ที่ข้างหน้าของน้องสุนัข โดยที่น้องสุนัขต้องนั่งรออยู่ดังเดิม ถ้าหากว่าน้องสุนัขไม่เอาอย่าง ก็ให้นำหมากลับไปที่เดิมแล้วกระทำการปรับปรุงโดยสั่งการ นั่ง รอ อีกรอบ
3. ถ้าหากว่าน้องสุนัขนั่งอยู่ในอาการสงบแล้ว ให้พวกเราจับของกินสักบางส่วนวางไปในจานชามของกินของน้องสุนัข จะต้องรอมองให้น้องสุนัขอยู่ในท่านั่งรอดังเดิมด้วยนะคะ
4. และก็ถ้าเชื่อฟังและก็ปฏิบัตตามคำสั่งของพวกเรา ก็ให้พวกเราให้รางวัลเขาด้วยการชูจานชามของกินขึ้นแล้วยื่นให้น้องหมากิน พร้อมทั้งดูทำใหม่ไปเรื่อยตราบจนกระทั่งของกินหมด น้องสุนัขจะเริ่มรู้เรื่องว่าพวกเราเป็นผู้บริจาคของกินมิได้มาแย่งของกิน
5. แม้กระนั้นในทางตรงกันข้ามหากน้องสุนัข มีความประพฤติข่มขู่หรือแยกเขี้ยว ให้พวกเราหยุดให้อาหารและก็ออกสำสั่ง "ไม่" แล้วก็ "นั่ง" ดังๆเพื่อเขารู้สึกตัวว่าแม้ทำการกระทำอย่างงี้จะอดทานอาหาร
การฝึกฝนด้วยวิธีแบบนี้จะเห็นผลมากมายถ้าหากฝึกหัดตั้งแต่น้องหมายังเด็กๆแล้วก็ทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีข้อละเว้น การใช้จิตวิทยาในรูปแบบนี้จะมีผลให้น้องสุนัขดูดซึมความเป็นผู้นำฝูงของผู้เลี้ยงได้ง่ายโดยที่ผู้เลี้ยงไม่ต้องใช้กระบวนการฝึกหัดที่เอาจริงเอาจังหรือเคร่งเคลียดเกินความจำเป็นจ้ะ
สำหรับกรณีของเจ้าขว้างเกียวนั้น ข่าวสารอัพเดทปัจจุบันเป็น ทางผู้ครอบครองได้นำไปรักษารวมทั้งฝากไว้กับทางโรงหมอ ซึ่งภายหลังจากเจ้าขว้างเกียวหายก็ดีทางผู้ครอบครองจะประกาศหาบ้านใหม่ให้ขว้างเกียวเนื่องมาจากไม่พร้อมดูแลต่อ แม้กระนั้นจะรับผิดชอบรายจ่ายสำหรับการคุมกำเนิดและก็ค่าฝากเลี้ยง และก็จะเดินทางไปยอดเยี่ยมเป็นประจำ... อย่างไรก็ขอให้เรื่องราวของขว้างเกียวจบสิ้นลงด้วยดี แล้วก็ขอให้เจ้าขว้างเกียวโชคดีได้พบกับครอบครัวใหม่ที่รู้เรื่องรวมทั้งเปิดใจเห็นด้วยนะคะ
บทความโดย : Dogilike.com
www.dogilike.com
ภาพประกอบ :
http://www.thairath.co.th/content/915615
http://www.superas.info/catalog/c/canine-food-aggression-toward-owner.html
https://www.cesarsway.com/dog-behavior/food-aggressive/food-aggression-and-what-to-do-about-it
www.dogilike.com
ภาพประกอบ :
http://www.thairath.co.th/content/915615
http://www.superas.info/catalog/c/canine-food-aggression-toward-owner.html
https://www.cesarsway.com/dog-behavior/food-aggressive/food-aggression-and-what-to-do-about-it
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น